“… Mojito ที่อ่านว่า โมฮิโต้ ที่ไม่ใช่ โมจิโต้ รสชาติเปรี้ยว ซ่า ดื่มได้ทั้งวัน ทั้งคืน แต่ถ้าใครอยากได้รสสัมผัสของ RUM ต้องมาลองที่ โอลิมปัส ขอนแก่น …”

Mojito ชื่อนี้มีที่มาอย่างไร
เรื่องราวของ “โมฮิโต้” หากย้อนกลับไปถึง ศตวรรษที่ 16 ในปี ค.ศ. 1586 เมื่อ Sir Francis Drake นักเดินเรือและนักสำรวจชาวอังกฤษเดินทางมาถึงคิวบา ในเวลานั้น ลูกเรือของเขาประสบปัญหาเจ็บป่วยจากโรคบิดและโรคเลือดออกตามไรฟัน(scurvy) ซึ่งเป็นอาการเหล่านี้เกิดมาจากการขาดวิตามินซี
ดังนั้นเพื่อทำการรักษาอาการ ชาวพื้นเมืองคิวบาได้แนะนำสูตรยารักษาอาการเหล่านั้นให้ โดยมีสูตรดังนี้
Mojito สูตรดั้งเดิม
- Aguardiente de caña (เหล้าอ้อยพื้นบ้านที่ยังกลั่นไม่สมบูรณ์เหมือนรัมในปัจจุบัน)
- น้ำตาลอ้อย
- น้ำมะนาว
- สมุนไพรพื้นบ้าน เช่น มิ้นต์(สะระแหน่)
นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมกัน และถูกเรียกชื่อว่า “El Draque” ตามชื่อของ Sir Francis Drake และ ต่อมาจะกลายเป็นรากฐานของ โมฮิโต้ ในเวลาต่อมา
จากเครื่องดื่มรักษาโรค สู่ค็อกเทลเพิ่มความสดชื่น

ในยุคแรก El Draque มีสถานะคล้าย ยา มากกว่า ค็อกเทล เพราะถูกใช้บรรเทาอาการเจ็บป่วยของเหล่าลูกเรือ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชาวคิวบาเริ่มนำสูตรนี้มาปรับปรุงเพื่อดื่มในชีวิตประจำวัน
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อคิวบากลายเป็นแหล่งผลิต Rum (รัม) ที่มีคุณภาพสูง จากอ้อยท้องถิ่น ทำให้ aguardiente ถูกแทนที่ด้วย รัมขาว ซึ่งมีรสชาติกลมกล่อมและหอมละมุนกว่าเดิม และนี่คิอช่วงเวลาที่ El Draque ค่อยๆพัฒนาเป็น Mojito อย่างแท้จริง
แล้วทำไมถึงชื่อว่า โมฮิโต้?
ว่ากันว่าคำว่า Mojito มาจากรากศัพท์มาจากภาษาสเปน “mojo” ซึ่งหมายถึง ซอสที่ทำมาจากมะนาว หรือ การปรุงรสด้วยมะนาว การเติม “-ito” ที่ท้ายคำทำให้มีความหมายประมาณว่า “สิ่งเล็กๆที่มีรสเปี้ยว” จึงสอดคล้องกับรสชาติหลักของค็อกเทลนี้
เมื่อก้าวเข้าสู่ต้นศตวรรษที่ 20 โมฮิโต้ ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มพื้นบ้านอีกต่อไป แต่กลายเป็นค็อกเทลที่โด่งดังในเมืองฮาวานา (Havana) ซึ่งในเวลานั้นคือศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ดนตรี และการท่องเที่ยวของแคริบเบียน
บาร์ในฮาวานาต่างเสิร์ฟ โมฮิโต้ ให้กับนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันและยุโรปที่เดินทางมาสัมผัสเสน่ห์ของเกาะคิวบา และจากตรงนี้เอง โมฮิโต้ ก็ค่อยๆแพร่หลายไปทั่วโลก
เปิดประสบการณ์ใหม่ กับ โมฮิโต้ ที่ไม่เหมือนใคร
โดยปกติแล้ว โมฮิโต้ แบบ original ประกอบไปด้วย น้ำตาล white Rum มินต์ มะนาว โซดา ในอัตราส่วนเท่าๆกัน โดยการเติมน้ำตาลลงไปเพื่อใช้ขัดผิวมะนาวให้มีความขมเพิ่มขึ้น ตบท้ายโดยการใส่โซดา ในปริมาณมาก หากใครดื่มแล้ว รสชาติแรกที่จะได้รู้สึกคือ ความเปรี้ยวของมะนาว ความขมของเปลือกมะนาว และ กลิ่นของใบมิ้นต์
แต่ถ้าหากมาลองที่ Olympus Khonkaen คุณจะพบกับรสชาติที่ใหม่เหมือนใคร โดยเราได้นำ โมฮิโต้ ในสูตร Original มาตีความใหม่ ในแบบโอลิมปัส ซึ่งจจะให้รสสัมผัสของ Rum ที่ชัดเจนขึ้น

สรุป โมฮิโต้ Classic cocktail ที่ได้รับความนิยมในระดับโลก
โมฮิโต้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ค็อกเทลธรรมดา แต่เป็นเครื่องดื่มที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ของประเทศคิวบา ตั้งแต่ยุคการเดินเรือ การผลิตอ้อย การกลั่นเหล้า จนถึงการกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จาก El Draque ที่เริ่มต้นจากความจำเป็นในการรักษาโรค โมฮิโต้ ได้ก้าวผ่านกาลเวลามามากกว่า 400 ปี และยังคงเป็น คลาสสิค ค็อกเทล ที่ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดจนถึงปัจจุบัน
โดยโอลิมปัส ได้นำมาตีความในรูปแบบใหม่ ที่รับรองได้ว่า คุณจะไม่เคยได้ลิ้มรสจากที่ไหนมาก่อน ซึ่งเป็นรสชาติที่คุณจะไม่มีวันลืม นอกจากนี้ ยังมีเมนูอื่นๆที่น่าสนใจอย่าง Negroni, Americano, classic cocktail และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย